Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
Tip&Technic
Home›Special Scoop›Tip&Technic›ที่ปัดน้ำฝน ดูแลอย่างไร ควรเปลี่ยนเมื่อใด

ที่ปัดน้ำฝน ดูแลอย่างไร ควรเปลี่ยนเมื่อใด

By นันทพงศ์ ภักดีบุตร
July 30, 2020
2373
0
Share:

หนึ่งในอุปกรณ์ของรถยนต์ที่มักถูกใช้บ่อยเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝนก็คือ ที่ปัดน้ำฝนหรือบางคนอาจเรียกว่าใบปัดน้ำฝน เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้สามารถมองเห็นเส้นทางในขณะขับรถท่ามกลางฝนที่ตกได้อย่างชัดเจน เพื่อไปยังจุดหมายได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นผู้ขับรถจึงควรที่จะดูแลเพื่อให้อุปกรณ์นี้สามารถใช้งานได้ยาวนาน เต็มประสิทธิภาพเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางขณะฝนตก หรือควรเปลี่ยนเมื่อไม่สามารถใช้งานได้ดี โดยต่อไปนี้คือคำแนะนำในการดูแลที่ปัดน้ำฝน รวมทั้งสัญญาณที่บ่งบอกว่าเจ้าของรถควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนใหม่ได้แล้ว

 

วิธีดูแลที่ปัดน้ำฝน

-ทำความสะอาดยางปัดน้ำฝนอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อที่ปัดน้ำฝนถูกใช้งานมานานไม่ว่าจะเพื่อปัดน้ำฝนตามชื่อเรียกหรือล้างคราบสกปรกบนกระจก ตัวยางของที่ปัดน้ำฝนก็มักจะมีสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคราบฝุ่น โคลน หรือแม้แต่ขี้นกติดอยู่ ซึ่งสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้สามารถทำให้ที่ปัดน้ำฝนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพอย่างที่เคย รวมทั้งเป็นสาเหตุบั่นทอนอายุการใช้งานได้ ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดยางบนที่ปัดน้ำฝน ซึ่งวิธีง่ายๆ คือ ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดตามแนวขอบยางที่ปัดน้ำฝนให้สะอาด

-เลี่ยงการจอดรถตากแดด

บางคนอาจคิดว่าหลังจากใช้งานปัดน้ำฝนมาแล้ว การจอดรถตากแดดหรือ การยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นเพื่อตากแดดจะเป็นการช่วยดูแลที่ปัดน้ำฝนที่อาจมีความชื้นหลงเหลืออยู่ แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นสิ่งที่ทำให้ที่ปัดน้ำฝนได้รับความร้อนจากแสงแดด ซึ่งสามารถส่งผลให้ยางที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพได้ง่าย และหมดอายุการใช้งานเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงควรเลี่ยงการจอดรถตากแดด หรือหากจอดรถตากแดดก็อย่ายกที่ปัดน้ำฝนขึ้น เพราะอากาศที่ร้อนอาจทำให้สปริงและก้านที่ปัดน้ำฝนเสียหายได้

-หมั่นใช้ที่ปัดน้ำฝนแม้ฝนไม่ตก

สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยดูแลที่ปัดน้ำฝนให้มีอายุการใช้งานยาวนานได้คือ หมั่นเปิดที่ปัดน้ำฝนพร้อมกดน้ำฉีดกระจกก่อนขับรถออกจากบ้าน เพราะไม่เพียงทำให้มองเห็นทางได้ชัดเจนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ยางที่ปัดน้ำฝนไม่แห้งแตกด้วย

-ตรวจสอบหน้ายาง

การตรวจสอบหน้ายางของที่ปัดน้ำฝนไม่เพียงแต่ดูว่ามีสิ่งสกปรกเกาะติดอยู่หรือไม่เพื่อจะทำความสะอาดเท่านั้น แต่ยังควรจับดูหรือสังเกตดูว่ายางแข็งหรือเป็นขุยหรือไม่ ซึ่งหากมีลักษณะแข็งหรือเป็นขุยก็ควรเปลี่ยนใหม่

-ตรวจสอบกระจก

นอกจากการดูสิ่งสกปรกบนที่ปัดน้ำฝนแล้ว กระจกรทั้งกระจกหน้าและกระจกหลังหากมีที่ปัดน้ำฝน เป็นอีกสิ่งที่ควรหมั่นดูอยู่เสมอว่าเศษดิน เศษหิน รอยแตก รอยร้าว ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายกับที่ปัดน้ำฝนเมื่อใช้งานหรือไม่

เมื่อใดที่ควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน

นอกจากการตรวจสอบยางที่ปัดน้ำฝนแล้วพบว่าแข็ง เป็นขุย หรือฉีกขาด ซึ่งควรเปลี่ยนใหม่แล้ว ยังมีอาการต่างๆ ในขณะใช้งานที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนใหม่ได้แล้ว

-ที่ปัดน้ำฝนทำงานสะดุด มีการทำงานไม่ราบเรียบขณะใช้งาน ซึ่งอาจมาจากยางปัดน้ำฝนที่แข็ง หรือมีสิ่งสกปรกบนยาง โดยหากมาจากสาเหตุแรกก็ควรเปลี่ยนใหม่

-มีเสียงเสียดสีในขณะทำงาน สาเหตุของอาการนี้มาจากยางที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ แห้งแข็ง ขาดความยืดหยุ่น

-เมื่อปัดน้ำฝนแล้วเกิดริ้วตามแนวปัด ไม่เรียบ ซึ่งมีสาเหตุมาจากยางที่ปัดน้ำฝนมีรอยแตกเนื่องจากแห้งจนฉีกขาด หรือเนื่องจากมีเศษหินใบไม้กีดขวางใบปัดจนทำให้ยางเป็นรอยหรือฉีกขาด

-ไม่สามารถปาดคราบน้ำได้หมดจด เกิดรอยแยกชัดเจนในขณะปัดน้ำฝน นี่คืออาการจากการที่ยางที่ปัดน้ำฝนหมดอายุ แห้งแตก

 

 

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

TagsWiper - Maintainที่ปัดน้ำฝน
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • เรเว่ สานต่อสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลัก BYD SEA V League 2025 ลีกตบลูกยางอาเซียน
  • Nissan Qashqai อัปเดตใช้ขุมพลัง e-Power เจเนเรชันที่สาม
  • Porsche ร่วมมือกับ Ferragamo ทำรถรุ่นพิเศษฉลอง 40 ปีในอิตาลี
  • BMW 540i xDrive Legacy Edition รุ่นเครื่องยนต์ 6 สูบไม่เสียบปลั๊กสำหรับแคนาดา
  • Toyota Land Cruiser Commercial เปลี่ยนจากรถเอสยูวีเป็นรถเพื่อการพาณิชย์

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram