ช่วงนี้หน้าฝน ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง “เปียก” ซึ่งเราก็เคยเหลาไปแล้วถึงเรื่องการล้างรถ ที่จะต้องดูแลความสะอาดสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้มัน “เน่าใน” ตอนนี้เรามาพูดถึง “หยดน้ำที่เกาะอยู่บนรถ” เวลาเราจอดตากฝน มันก็อาจจะดูเป็นเม็ดๆ พราวสวยดี บางคนชอบถ่ายรูปรถตอนนี้แหละ แต่ว่า ในความสวยงามของหยดน้ำนั้น มันอาจจะมีสิ่งที่ “ทำร้าย” รถเราอยู่ได้ ถ้าเราปล่อยทิ้งไว้นานๆ บ่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้น…

ทำให้สีเป็นรอยด่าง

เราอาจจะมองว่าหยดน้ำฝนที่ “หลั่งมาจากฟ้า” นั้นเป็นน้ำสะอาด ก็จริงในเรื่องของธรรมชาตินะ เพียงแต่ว่า ถ้าเป็นในเขตเมืองหลวงที่ “มลพิษมาก” ก็จะกลายเป็น “ฝนกรด” เพราะมันชะล้างเอาสารพิษที่ลอยอยู่บนอากาศลงมา (แต่ถ้าตกหนักและนานหน่อยก็ค่อยยังชั่ว) พอมันจับตัวเป็นหยดน้ำทิ้งไว้นานๆ บ่อยๆ ก็จะ “กัดสี” และโดยเฉพาะตอนที่ “แดดออก” ไอ้หยดน้ำที่ว่ามันจะเป็น “จุดรวมแสง” ทำให้เกิดความร้อนสูงกว่าปกติ ก็จะยิ่งทำให้สีด่างและเป็นรอยวงๆ เต็มไปหมด แบบที่ทุกคนเคยเจอ…

เช็ดรถให้แห้ง ลงแค่แรง ช่วยได้เยอะ

เรื่องป้องกันสีเป็นรอย หลายคนก็พยายามไปเคลือบแก้วหรืออะไรก็ตามแต่ เพื่อปกป้องชั้นสี อันนั้นก็ดีครับ แต่ว่า โดยพื้นฐานแล้ว ควรจะช่วยเซฟในขั้นพื้นฐานก่อน ถ้ารถมีหยดน้ำเกาะ ก็ควรจะพกผ้าประจำรถสักผืน เอาไว้เช็ดน้ำออกจากตัวรถ โดยเฉพาะ “ส่วนด้านบน” ที่จะปะทะแสงแดดโดยตรง ส่วนด้านข้าง ชายล่าง อันนั้นไม่ค่อยซีเรียส (เพราะไม่ค่อยโดนแดดตรงๆ สักเท่าไร) เน้นว่า “ผ้าสะอาด” นะครับ ประเภท “ผ้าซกมก” อย่าหาทำ เดี๋ยวจะทำสีหมองหนักกว่าเก่าอีก ลงทุนหน่อยผ้าเช็ดรถดีๆ ผืนนึงไม่กี่ตังค์หรอก ถูกกว่าค่าทำสีเยอะ…

เรื่องง่ายๆ ที่คุณทำเองก็ได้ ไม่ต้องใช้ตังค์อะไรมากมาย เพียงแต่ “อย่าขี้เกียจ” เท่านั้นเอง แต่มันส่งผลอย่างมากกับสีรถ และช่วยในการฟื้นฟูพื้นผิวสีรถให้ใช้ได้นานขึ้น เซฟค่าใช้จ่ายระยะยาว เอาเถอะครับ รถของคุณ คุณก็ต้องรักษาเอาเอง แต่ถ้าเป็นรถของคนข้างๆ คุณก็ต้องถือว่า “เป็นหน้าที่” แหละครับ ฮ่าๆ…

เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th