เรื่องของ “สัญลักษณ์ต่างๆ บนแก้มยาง” นั้น มันจะมีมากกว่า “แบรนด์และรุ่น” หรือ “ขนาดของยาง” ยังมีบางสิ่งอย่างที่อาจจะชวนสงสัยกันอยู่ ว่า “มันคืออิหยัง” แต่ไม่รู้จัก ซึ่งพวกนี้อาจจะมีการเข้าใจผิด เข้าใจคลาดเคลื่อนว่ามันเป็นเรื่องของการ “บอกสมรรถนะของยาง” ว่ามันดีอย่างนั้นอย่างนี้ เราจะมาทำความเข้าใจก่อนว่า สัญลักษณ์แปลกๆ เหล่านี้ มันหมายถึงอะไร ครั้งนี้จะเริ่มกันจากคำว่า “DOT” ว่ามันมีที่มาอย่างไรกันแน่ เพราะเป็นที่ถกเถียงกันเหลือเกิน…

คำว่า DOT ที่ปรากฏบนแก้มยาง มันมาจากคำว่า Department of Transportation หรือ “กรมการขนส่ง” ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ “ทดสอบและตั้งมาตรฐานของยางรถยนต์ที่จำหน่ายทั่วไป” บริษัทที่ผลิตยางจะต้องส่งยางรุ่นที่จะจำหน่ายไปทดสอบ ต้องผ่านมาตรฐาน DOT ก่อน ถึงจะจำหน่ายได้ เพื่อเป็นมาตรฐานยืนยันถึง “คุณภาพของยาง” นั่นเอง ซึ่งก็จะมีการตั้งมาตรฐานไว้ เพื่อให้ยางนั้นออกขายตามท้องตลาดได้ทั่วไป มีต้นทุนไม่แพงเกินไปนัก ยางที่ผ่าน  DOT มันคือ “ยางถนนที่ใช้ได้ถูกกฎหมาย” แค่นั้นเอง…

สำหรับการทดสอบยางของ DOT ก็จะมีขั้นตอนอยู่ว่า ต้องส่ง “ยางตัวอย่าง” ไปก่อน “ทุกขนาด” และ “ทุกรุ่น” ที่จะจำหน่าย แล้วก็ต้องซื้อ “ยางตัวอย่างที่หน่วยงาน DOT ผลิตขึ้นมาทดสอบในสนามอย่างเดียว แต่มีคุณสมบัติเหมือนยางทั่วไปที่จำหน่ายจริง” เพื่อนำมา “ทดสอบเปรียบเทียบ” ขนาดต่อขนาด รุ่นต่อรุ่น กับยางที่จะผลิตขายทั่วไป ก็จะมีการขับทดสอบเปรียบเทียบกัน ระหว่างยางที่ส่งไป กับยาง DOT ว่า “สึกไปแค่ไหน ในระยะทางเหมือนกัน” จะมีการบันทึกข้อมูลเอาไว้ โดยปกติยางที่จำหน่ายก็จะหมดช้ากว่ายาง DOT อยู่แล้ว…

เมื่อยางผ่านการทดสอบแล้ว ก็จะสามารถส่งจำหน่ายได้ โดยมีสัญลักษณ์ DOT อยู่บนแก้มยาง ซึ่งบ่งบอกว่า “ได้มาตรฐานเรียบร้อย ใส่ขับใช้งานบนท้องถนนได้” แต่ก็จะมีอีกเรื่องที่ถกเถียงกันหนักกว่านี้อีก ก็คือคำว่า “เทรดแวร์” Tread wear แล้วก็ยังมีความเข้าใจไปแบบ “อื่นๆ อีกมากมาย” ครั้งหน้า เราจะมาเหลาเรื่องนี้กันครับ…

เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th