Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
Tip&Technic
Home›Special Scoop›Tip&Technic›วิธีการลากรถ ที่ไม่ทำให้รถพัง

วิธีการลากรถ ที่ไม่ทำให้รถพัง

By นันทพงศ์ ภักดีบุตร
August 3, 2020
4329
0
Share:

คงเคยได้ยินกันมาบ้างว่าถ้าลากรถผิดวิธีจะทำให้รถพัง ใช่แล้วครับเข้าใจไม่ผิดเพราะการลากรถต้องมีวิธีการที่ถูกต้อง ถ้าคิดว่าแค่ลากส่งๆ ไปให้ถึงอู่โดยไม่เข้าใจถึงรูปแบบของรถ รับรองเลยว่ารถ “พัง” เพิ่มขึ้นแน่นอน ถ้าอยากถนอมรถมาดูวิธีการลากรถที่ถูกต้องกัน

ในกรณีที่มีรถยก อย่างแรกเลยเราต้องรู้ก่อนว่ารถเราขับเคลื่อนล้อไหน (ขับเคลื่อนล้อหน้า – ขับเคลื่อนล้อหลัง) ให้ยกในล้อที่ใช้ขับเคลื่อน เพื่อป้องกันการพังของชุดเกียร์ เนื่องจากรถที่เสียส่วนใหญ่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ได้ เมื่อเครื่องยนต์ไม่ทำงาน ปั๊มน้ำมันเกียร์ก็ไม่ทำงานเช่นกัน ทำให้ชุดเกียร์และฟันเฟืองต่างๆ ทำงานโดยไม่มีการหล่อลื่นหากมีการลากจูง ส่งผลให้เกิดการเสียดสีอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดความร้อนสูงในห้องเกียร์ซึ่งจะส่งผลให้ระบบเกียร์พัง

แต่ถ้าไม่มีรถยกต้องลากแบบช้าๆ อย่าให้เกิน 30 กม./ชม. และระยะทางไม่ควรเกิน 10 กม. ถ้าจะลากไกลกว่านั้น ต้องหยุดพักซัก 15-30 นาทีก่อน แล้วค่อยลากกต่อเพื่อเข้าศูนย์บริการทำการซ่อมแก้ไข ในกรณีรถเกียร์ออโต้และเกียร์ CVT ควรใส่เกียร์ว่าง เมื่อต้องทำการลากจูง

ส่วนข้อควรระวังคือ ถ้าหากเกิดกรณีที่ต้องลากรถไปไกล ๆ เพื่อไปซ่อมหรือเข้าศูนย์บริการที่อยู่ไกล ๆ อาจจะใช้บริการรถยกหรือรถสไลด์จะปลอดภัยมากกว่า

 

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

TagsMaintenance - Maintainลากรถ
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • เรเว่ สานต่อสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลัก BYD SEA V League 2025 ลีกตบลูกยางอาเซียน
  • Nissan Qashqai อัปเดตใช้ขุมพลัง e-Power เจเนเรชันที่สาม
  • Porsche ร่วมมือกับ Ferragamo ทำรถรุ่นพิเศษฉลอง 40 ปีในอิตาลี
  • BMW 540i xDrive Legacy Edition รุ่นเครื่องยนต์ 6 สูบไม่เสียบปลั๊กสำหรับแคนาดา
  • Toyota Land Cruiser Commercial เปลี่ยนจากรถเอสยูวีเป็นรถเพื่อการพาณิชย์

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram