Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
Tip&Technic
Home›Special Scoop›Tip&Technic›รู้ยัง !! น้ำมันเกียร์ออโต้ ต้องเปลี่ยน ก่อนพัง

รู้ยัง !! น้ำมันเกียร์ออโต้ ต้องเปลี่ยน ก่อนพัง

By ณัฐพล เดชสิงห์
September 19, 2016
37823
0
Share:

ปัจจุบันผู้ใช้รถยนต์หันมาใช้รถยนต์ที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ หรือ เกียร์ ออโต้ กันมากขึ้น แถมรถยนต์สมัยนี้ส่วนมากก็จะเป็นเกียร์ออโตซะด้วยถึงขนาดบางรุ่นไม่มีเกียร์ธรรมดา เนื่องมาจากความสะดวกสบายในการขับขี่ แต่เมื่อได้ความสะดวกสบาย เราจึงควรดูแลเกียร์ออโตเมติกให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ และสิ่งสำคัญที่มักถูกมองข้ามจากผู้ขับขี่หลายๆ ท่าน คือการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์อย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าเรามองข้ามมันไปจะส่งผลที่ร้ายแรงจนคุณจะต้องเสียสตางค์หลายบาทเลยทีเดียว อาจถึงขั้นกระเป๋าฉีกกันเลย มารู้จักน้ำมันเกียร์ กันก่อนเลย หน้าที่ของน้ำมันเกียร์ออโตเมติก โดยหลัก ๆ แล้วจะทำหน้าที่ถ่ายทอดกำลังไฮโดรลิก ในการสั่งควบคุมระบบต่าง ๆ ในห้องเกียร์ ไม่ว่าจะเป็นคลัตซ์  ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ หล่อลื่นและระบายความร้อนชิ้นส่วนภายในต่าง ๆ ทั้งนี้เมื่อน้ำมันเกียร์ออโตเมติกเริ่มเสื่อมสภาพ ก็จะส่งผลให้เกิดการสึกหรอสูงจนเกิดการเสียหายในที่สุด

คุณสมบัติน้ำมันเกียร์ออโตเมติก มีความหนืดที่พอเหมาะ คงความข้นใสได้ในทุกช่วงอุณหภูมิ สามารถแทรกผ่านได้ทุกส่วนภายในห้องเกียร์ไม่ว่าจะเป็นช่องว่างระหว่างแผ่นคลัตซ์ และวาล์วต่าง ๆ ไม่เป็นฟอง ป้องกันความชื้นและการเกิดสนิมได้ดี ทนความร้อนได้สูงโดยไม่เสื่อมสภาพ และต้องไม่ติดไฟ ไม่กัดกร่อนชิ้นส่วนภายในห้องเกียร์ทั้ง โลหะ ยาง ละพลาสติก

%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a3%e0%b9%8c
ชนิดน้ำมันเกียร์ออโต้

1.น้ำมันเดกซ์รอน II โดยจะลื่นมากกว่าน้ำมันเดกซ์รอน F ทำให้เมื่อมีการเปลี่ยนเกียร์จะรู้สึกนิ่มมากกว่า

2.น้ำมันเดกซ์รอน F เหมาะสำหรับเกียร์อัตโนมัติที่มีระบบล็อกของทอร์คคอนเวอร์เตอร์เพื่อป้องกันการลื่นของคลัตซ์เป็นน้ำมันกียร์ที่เพิ่มประสิทธิภาพทางความฝืดสูง

ตัวอย่างน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
1. ATF Dexron II ใช้สำหรับเกียร์อัตโนมัติของรถยนต์ทั่วไป และใช้สำหรับเกียร์ผ่อนำกำลัง
2. โดแนกซ์ TM ใช้สำหรับเกียร์อัตโนมัติ เกียร์ธรรมธรรมดา เกียร์รถบรรทุก เครื่องจักรหนัก
3. โดแนกซ์ TT ใช้สำหรับระบบเกียร์ไฮดรอลิกเฟืองท้าย และระบบ wet brak รถแทรกเตอร์ในการเกษตร
4. โดแนกซ์ TF ใช้สำหรับระบบเกียร์อัตโนมัติรถยนต์ทั่วไป สำหรับประเภท Type F หรือ Type G
5. แทรกเซิล ใช้สำหรับระบบเกียร์ไฮดรอลิกเฟืองท้าย และระบบเบรกที่จุ่มในน้ำมัน สำหรับรถแทรกเตอร์การเกษตร

cvt-3

เมื่อรู้จักน้ำมันเกียร์กันคร่าวๆไปแล้ว เรามาดูเทคนิคการตรวจวัดน้ำมันเกียร์กันบ้าง

1.ดึงเบรกมือ ติดเครื่องยนต์ 2-3 นาที

2.เหยียบเบรก โยกคันเกียร์ไปตำแน่งต่าง ๆ ให้ครบทุกตำแหน่งก่อนหยุดที่ตำแหน่ง P

3.ดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ ออกมาเช็ดด้วยผ้าสะอาด

4.เสียบก้านวัดลงไปใหม่แล้วดึงขึ้นมาอ่านค่า

5.สังเกตระดับน้ำมันเกียร์ที่ก้านวัด จะต้องไม่ต่ำกว่าขีดล่าง(cool) ในกรณีเครื่องเย็น และไม่สูงเกินขีดบน(hot) ในขณะเครื่องร้อน

6.หากน้ำมันเกียร์ต่ำกว่าระดับที่กำหนด ต้องหาน้ำมันเกียร์เกรดที่ผู้ผลิตกำหนดมาเติม (ดูได้จากคู่มือรถ)โดยไม่จำเป็นต้องยี่ห้อเดียวกันก็ได้

dsc05741_zps57d7066b7.น้ำมันเกียร์บอกสภาพของเกียร์ ได้ โดยเกียร์ที่สมบูรณ์ น้ำมันเกียร์จะต้องมีสีแดงหรือเหลือง สะอาด ไม่เป็นฟอง-ไม่มีเศษโลหะ

8.หากน้ำมันเกียร์มีสีขุ่น ๆ คล้ายโคลน แสดงว่ามีการรั่วซึมของระบบน้ำหล่อเย็นออยเกียร์เข้าไปในระบบเกียร์ ให้รีบหาต้นเหตุแล้วซ่อม ร่วมทั้งเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ใหม่ด้วย

9.การตรวจวัดน้ำมันเกียร์จะต้องอยู่ในระดับที่กำหนด ไม่มากหรือน้อยเกินไป ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นได้

แม้คู่มือรถยนต์ของท่านจะกำหนดให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ที่ทุก 40,000 กิโลเมตร แต่อย่าลืมว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน แถมการใช้รถในเมืองใหญ่ที่มีสภาพการจราจรติดขัด เพื่อให้ได้การปกป้องสูงสุดขอแนะนำให้ท่านเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร

 

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด

 

TagsGear Oil - Maintainน้ำมันเกียร์น้ำมันเกียร์ออโตเมติกน้ำมันเกียร์ออโต้บทความ
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • Porsche เผยโฉม Cayenne Electric สู่สาธารณชน-พรางตัวทดสอบสมรรถนะก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
  • สเปค และข้อมูลของ Ferrari Amalfi ซูเปอร์คาร์สไตล์ GT ขุมกำลัง V8 รุ่นล่าสุดจากมาราเนลโล่
  • Ferrari Amalfi ม้าลำพองตัวใหม่จากมาราเนลโล่-ยกระดับรถสปอร์ต GT ขุมกำลัง V8 630 แรงม้า
  • ‘เจม-นันทวุฒิ’ พลิกแซง 10 นาทีท้าย-คว้าแต้มศึกฟอร์มูล่า ยูโรเปี้ยน ที่ฮังการี
  • ‘เติ้น-ทัศนพล’ นักแข่งไทยคนแรกคว้าชัยชนะในศึกฟอร์มูล่า 3 รอบสปรินต์ เรซ ที่ซิลเวอร์สโตน

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram