Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
Report
Home›Special Scoop›Report›ทำไม !! หมวกกันน็อคแบรนด์ระดับโลก ถึงไม่มี มอก.ใส่แล้วตำรวจจับ

ทำไม !! หมวกกันน็อคแบรนด์ระดับโลก ถึงไม่มี มอก.ใส่แล้วตำรวจจับ

By ณัฐพล เดชสิงห์
September 1, 2017
21135
0
Share:

ต้องยอมรับว่ารถจักรยานยนต์ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก แน่นอนเมื่อความนิยมของรถจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้น สิ่งที่มีดิบขายดีตามไปด้วยคืออุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยในการขี่รถจักรยานยนต์ อย่างหมวกกันน็อค ซึ่งมีอยู่มากมายหลากหลายรูปแบบหลายยี่ห้อ

1.แบบเต็มหน้า (Full Face)
ครอบคลุมตั้งแต่ท้ายทอยไปจนถึงปลายคาง มีช่องเจาะบริเวณตาและจมูกเพื่อให้มองเห็นและหายใจได้สะดวก ปิดด้วยกระจกบังลม ซึ่งอาจมีสีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแบบนี้มีความปลอดภัยสูงมาก

2.แบบมอเตอร์ครอส (Motocross)
หมวกกันน็อกชนิดนี้ดัดแปลงมาจากแบบเต็มหน้าเพื่อใช้ขี่แบบมอเตอร์ครอสโดยเฉพาะ มีความปลอดภัยเช่นเดียวกับแบบเต็มหน้า โดยเพิ่มส่วนบังแดดและยืดบริเวณที่ปิดคางออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันโคลนที่ปลิวมาขณะขับขี่ แต่ได้ถอดกระจกบังลมออกเพื่อให้อากาศผ่านได้สะดวก ซึ่งผู้ขับขี่ส่วนใหญ่จะเลือกสวมแว่นตาครอบเพื่อป้องกันโคลนที่ปลิวเข้ามาด้วย

3.แบบเปิดหน้า (Open face)
ครอบคลุมหัวเพียง 3 ใน 4 เท่านั้น แต่เป็นหมวกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แม้ว่าจะไม่สามารถปกป้องได้ทั้งใบหน้าก็ตาม หมวกชนิดนี้ จะมีกระจกบังลมครอบทั้งใบ ซึ่งช่วยป้องกันฝุ่นและแมลงที่อาจรบกวนการขับขี่ของเราได้

4.แบบโมดูลา (Modular)
เป็นหมวกกันน็อกรูปร่างแบบเดียวกับแบบเต็มใบ แต่สามารถพับส่วนคางขึ้นมาได้ พัฒนามาจากแบบเต็มใบซึ่งไม่มีที่ปิดคาง โดยหมวกชนิดนี้ได้รับความนิยมมากเพราะสามารถเปิดบริเวณปากเพื่อพูดคุยหรือแม้กระทั่งกินอาหารได้ทันทีโดยไม่ต้องถอดหมวก และยังให้การปกป้องบริเวณคางเช่นเดียวกับแบบเต็มหน้าอีกด้วย

4.แบบครึ่งใบ
หมวกกันน็อคประเภทนี้ จะปิดเพียงส่วนด้านบนของศรีษะเท่านั้น ครอบลงมาแค่เพียงครึ่งเดียว บางใบอาจจะมีบังลมติดมาให้ หมวกชนิดนี้ได้รับความนิยมมาก เพราะว่ามันเบาคล่องตัว สะดวก ราคาถูก แต่หมวกประเภทนี้จะมรความปลอดภันต่ำที่สุดนะจ๊ะ

ส่วนในประเทศไทยคุณจะเลือกใช่หมวกแบบไหนก็ได้ตามใจคุณแต่จุดสำคัญเลยครับว่า หมวกกันน็อคทุกใบต้องผ่าน มอก. ก่อนเท่านั้น อย่างแบรนด์ดังๆหลายแบรนด์ ราคาค่อนข้างสูง แต่มีความปลอดภัยได้มาตรฐานโลก เมื่อเข้ามาในไทยใช่ไม่ได้นะครับผม ตำรวจจับนะจะบอกให้ เพราะหมวกกันน็อคแบรนด์ดังเหล่านั้น ไม่ได้มีการผ่านการทดสอบของ มอก.ในบ้านเรา งงไปเลยครับท่าน

มาตรฐานของหมวกกันน็อค

แน่นอนว่าสินค้าทุกอย่างต้องมีมาตรฐานรับรอง และหมวกกันน็อกก็เป็นของที่ต้องมีการทดสอบมาตรฐานมากด้วยเช่นกัน โดยมาตรฐานเหล่านี้จะทดสอบทั้งความแข็งแรง ความสะดวกสบายต่าง ๆ ในการสวม ซึ่งถ้านักบิดทั้งหลายเห็นชื่อหน่วยงานเหล่านี้แล้วรับรองว่าสามารถวางใจในมาตรฐานได้เลยล่ะ ซึ่งทั่วโลกจะมีหน่วยงานดูแลมาตรฐานต่าง ๆ ดังนี้

1.มาตรฐาน SNELL 2000

เป็นมาตรฐานหมวกกันน็อคที่ถูกอ้างอิงและใช้เป็นต้นแบบมาตรฐานหมวกกันน็อคสำหรับขับขี่มอเตอร์ไซด์ในหลายประเทศ มีการทดสอบหลายประการเพื่อที่จะเป็นการรับรองคุณภาพหมวกกันน็อคในแต่ละชุดที่ผลิตขึ้นมาจำหน่ายให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ snell เป็นมาตรฐานที่ปรับปรุงความเข้มข้นในการทดสอบอยู่ตลอดเวลา ทั้งขอบเขตทดสอบการทดสอบการดูดกลืนแรงกระแทกบนหมวกนิรภัยและวิธีการทดสอบอื่นๆ เพื่อพัฒนาระดับการป้องกันให้สอดคล้องกับสภาพการเกิดอุบัติเหตุในปัจจุบัน นอกเหนือจากเรื่องการตรวจสอบโครงสร้างภายนอก โลหะ อุปกรณ์เสริมและรูปทรงแล้ว มาตรฐาน SNELL 2000 ยังมีการทดสอบเพื่อให้ผ่านเกณฑ์การทดสอบต่างๆ อาทิ การทดสอบการมองเห็นของผู้สวมใส่

2.มาตรฐาน DOT (FMVSS 218) Department Of Transpolation มาตรฐาน DOT เป็นมาตรฐานหมวกกันน็อคสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ที่กำหนดขึ้นโดยสำนักงานขนส่งของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่รู้จักเช่นเดียวกันกับมาตรฐาน SNELL แต่มีเกณฑ์ และวิธีการทดสอบที่แตกต่างกัน ทั้งนี้เนื่องจากมาตรฐาน DOT พิจารณาว่าการทดสอบที่กำหนดขึ้นมาใหม่นั้นเพียงพอต่อการป้องกันผู้สวมใส่หมวกนิรภัยได้ระดับหนึ่งแล้ว ยังเพิ่มความเข้มข้นในการออกใบรับรองให้กับโรงงานผู้ผลิตหมวกกันน็อค เพื่อที่จะทำให้ผู้ผลิตนั้นสามารถผลิตหมวกกันน็อคได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ไม่ต้องมายึดติดกับเรื่องมาตรฐานที่เกินความจำเป็น นอกเหนือจากเรื่องของการตรวจสอบโครงสร้างภายนอก โลหะ อุปกรณ์เสริมแล้ว มาตรฐาน DOT มีการทดสอบเพื่อให้ผ่านเกณฑ์การทดสอบอีกด้วย

3.มาตรฐาน E 2205 เป็นมาตรฐานซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายสำหรับผู้ใช้รถมอเตอร์ไซด์ในทวีปยุโรป มีวิธีการทดสอบที่แตกต่างไปจาก SNELL และ DOT ที่สำคัญคือวิธีการทดสอบเป็นแบบสามแกน(Tri-axial) และตำแหน่งที่ทดสอบการดูดกลืนแรงกระแทกของหมวกกันน็อคมีการกำหนดจุดแน่นอน โดยการทดสอบกระแทกเพียง 1 ครั้งต่อ 1จุด เท่านั้น โดยจะใช้แรงในการกระแทกที่รุนแรงกว่าแบบมาตรฐานDOT มาตรฐาน E 2205 ส่วนใหญ่นิยมใช้ในการทดสอบหมวกนิรภัยที่ใช้ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ในทวีปยุโรป จึงเป็นที่รู้จักแพร่หลายเป็นสากล และเมื่อหมวกกันน็อคผ่านการตรวจสอบโครงสร้าง โลหะ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ แล้วหมวกกันน็อคต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบอื่นๆด้วย

4.มาตรฐาน JIS T 8133:2000 มาตรฐาน JIS 2000 เป็นมาตรฐานหมวกกันน็อคในประเทศญี่ปุ่นที่มีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ นอกจากจะเป็นการนำเอาส่วนที่ดีของมาตรฐาน DOT และมาตรฐานE 2205 มารวมกันแล้ว มาตรฐานนี้ยังปรับปรุงพัฒนาขึ้นมาจากมาตรฐาน JIS 1997 โดยมีส่วนสำคัญในการปรับปรุงจากมาตรฐานเดิมคือ การรวมเอาวิธีการทดสอบแบบ Uni-axial และ Tri-axial เข้าไว้ด้วยกัน ถ้าหากเป็นหมวกนิรภัยแบบเต็มใบจะเพิ่มความรุนแรงของการกระแทกในครั้งแรก แต่ละความรุนแรงของการกระแทกในครั้งที่สองลง ส่วนหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบทดสอบโดยการกระแทก 1 ครั้งต่อจุด ซึ่งอาจจะสันนิษฐานได้ว่า เพื่อให้สอดคล้องกับข้มมูลสติถิในปัจจุบันนั่นเอง –การมองเห็นของผู้สวมใส่

5.มาตรฐาน มอก. TIS 369-2539 มาตรฐานหมวกกันน็อคของประเทศไทย TIS 369-2539 นี้ เป็นมาตรฐานฉบับปรับปรุง

อันที่จริงแล้วอย่างที่ใครหลายคนคิด(รวมถึงผมด้วย)ว่าถ้าหมวกกันน็อคที่ผ่านมาตรฐานต่างๆในระดับสากลแล้ว แถมยังนำเข้ามาโดยเสียภาษีตามกฎหมายอย่างหมวกกันน็อคแบรนด์ดังหลายๆแบรนด์ อย่าง SHOEI , ARI เป็นต้น ทำไมใส่ในไทยแล้วตำรวจถึงจับละ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่มีการผ่านมาตรฐานการตรวจสอบของ มอก. ซึ่งหลายคนคิดเหมือนผมว่าที่ผ่านมาตรฐาน มอก.นี่บางยี่ห้อเหมือนของเด็กเล่นเลย พลาสติกก็ดูบางๆแปลกๆเหมือนของเด็กเล่น ดูจะไม่ช่วยในเรื่องความปลอดภัยในเวลาเกิดอุบัติเหตุได้เลย ทำไมถึงผ่าน มอก. มาตรฐานอยู่ตรงไหน สนใจความปลอดภัยของผู้สวมใส่บางมั้ย แถมใส่แล้วพี่ตำรวจไม่จับด้วย แต่พวกหมวกกันน็อคมาตรฐานระดับใส่แข่งขันได้กลับไม่สามารถนำมาใช้ในบ้านเราไม่ได้ทั้งที่ปลอดภัยกว่าเห็นๆ ใส่ไปตำรวจเห็นจับ แล้วบอกไม่มี มอก. ซะงั้น

สรุป ก็คือทางหมวกกันน็อคพวกนั้นเค้าไม่ยอมให้ มอก. ในบ้านเราตรวจสอบเพราะเค้าบอกว่า ก็หมวกเค้าผ่านมาตรฐานไม่ว่าจะเป็น DOT E2205 SNELL มาหมดแล้วทำไมต้องมาตรวจสอบอีก เพราะตรวจสอบแต่ละทีต้องเอาหมวกกันน็อคไปให้ทดสอบเยอะมากซึ่ง เสียทั้งเวลา และงบประมาณ ทางบริษัทแบรนด์ดังพวกนี้เค้าเลยมองว่าสินค้าเค้าได้รับการทดสอบจากสถาบันที่ยอมรับจากทั้วโลกมาแล้วทำไมต้องมาทดสอบอีกทั้งที่หลายประเทศก็ยอมรับและใช้ได้ตามปกติ แต่ในเมื่อเค้าไม่ยอมตรวจก็แทนที่จะห้ามไม่ให้จำหน่าย หรือนำเข้ามาขายในประเทศไทยเลย แต่กลับปล่อยให้นำเข้ามาขายอย่างถูกกฎหมาย พอมีคนซื้อไปใช้วิ่งบนถนนในเมืองไทยกลับถูกจับบอกว่าไม่มี มอก. อันนี้มันคืออะไรประชาชนตาดำๆก็ต้องยอมรับสภาพต่อไป อยู่ที่วิจารณญาณของเจ้าหน้าที่ ว่าจับหรือไม่จับแบบนี้นะหรือ ใครทราบช่วยตอบด้วยนะครับ

 

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

 

 

Tagsมอก.หมวกกันน็อค
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • Lynk & Co 10 EM-P รถซีดานปลั๊กอินไฮบริดใช้ไฟฟ้าเดินทางได้เกือบ 200 กิโลเมตร
  • Koenigsegg Sadair’s Spear ไฮเปอร์คาร์รุ่นใหม่เน้นปรับปรุงสมรรถนะสำหรับสนามแข่ง
  • Lancia Ypsilon HF ตัวแรงของรถไฟฟ้ารุ่นเล็ก
  • ฟอร์ด ฉลองครบรอบ 29 ปี Growing Together-ส่งโปรฯ ช่วยผ่อน 29 งวด พร้อมแคมเปญพิเศษตอบแทนลูกค้า
  • New Mazda CX-3 Essential ขาย 4 รุ่น เริ่มต้นเพียง 699,000 บาท

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram