Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
New Comer
Home›Auto News›New Comer›ครั้งแรกของโลก ‘Byton’ รถไฟฟ้าอัจฉริยะ-เคาะราคา 1.48 ล้านบาทพร้อมขายจริงปีหน้า

ครั้งแรกของโลก ‘Byton’ รถไฟฟ้าอัจฉริยะ-เคาะราคา 1.48 ล้านบาทพร้อมขายจริงปีหน้า

By Poonthavee Suwathikul
January 8, 2018
16153
0
Share:

กลายเป็นไฮไลต์ประเดิม CES 2018 งานแสดงเทคโนโลยีระดับโลก ที่เมืองลาส เวกัส ประเทศสหรัฐฯ หลังจาก Byton แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่สัญชาติจีน เลือกใช้เป็นเวทีเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบรุ่นแรกที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดฮอตของทศวรรษหน้า พร้อมประกาศจะเริ่มผลิตขายจริงในปี 2019 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 45,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.48 ล้านบาท

บนเวทีแถลงข่าวผู้บริหาร Byton แสดงจุดยืนชัดเจนว่ารถยนต์ของพวกเขาได้รับการออกแบบบนพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้า หมายความว่าแบรนด์นี้จะไม่มีที่ว่างสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ต้องใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน

คลิปไลฟ์งานเปิดตัว Byton บนเวที CES 2018

ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ถูกยกให้เป็นหัวใจสำคัญ Byton ย้ำว่ารถยนต์ของพวกเขาจะช่วยลดเวลาในการจับพวงมาลัยยามต้องเผชิญการจราจรที่ติดขัดในแต่ละวัน โดยคาดว่าช่วงแรกจะอยู่ระดับ Level 3 ที่หมายความว่าคนขับสามารถนั่งเล่นโทรศัพท์หรือดูหนังระหว่างเดินทาง แต่จะต้องพร้อมจะควบคุมรถยนต์ในบางสถานการณ์ พร้อมตั้งเป้าหมายจะก้าวไปสู่ Level 4 ที่สามารถสั่งให้หาที่จอดโดยไม่ต้องมีคนอยู่ในรถยนต์

Did You Know?

ช่วงกลางปีที่แล้ว Audi A8 ประกาศว่าพวกเขาเป็นรถยนต์ผลิตขายจริงรุ่นแรกของโลกที่รองรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 3 โดยฟังก์ชั่น Traffic Jam Pilot สามารถควบคุมการขับแทนมนุษย์จนถึงความเร็วสูงสุดที่ 60 กม./ชม. 

คลิปการขับทดสอบรถต้นแบบ Byton

การมีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติทำให้ Byton เลือกติดตั้งระบบสื่อสารความเร็วสูง 5G และเสาอากาศแบบ Flat Antenna ฝังอยู่ใต้หลังไม่ได้เป็นรูปครีบฉลามเหมือนที่นิยมใช้ในรถยนต์ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน รองรับระบบผู้ช่วยส่วนตัว Alexa ซอฟต์แวร์ควบคุมด้วยเสียงพัฒนาโดย Amazon เว็บขายสินค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลก

นอกจากนี้เพื่อความสะดวกต่อการใช้งานรถต้นแบบของ Byton มีการฝังแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้วบนพวงมาลัยคนขับ และฉีกรูปแบบการดีไซน์แผงหน้าปัดหน้าด้วยการใส่หน้าจอทัชสกรีนขนาด 49 นิ้วที่ถูกนิยามให้เป็น Shared Experience Display สามารถรองรับระบบจดจำใบหน้าเพื่อปลดล็อกประตู, ระบบสั่งงานด้วยการจับความเคลื่อนไหวของมือ และแสดงภาพจากกล้องที่ติดอยู่รอบคันรถ

Analysis

บรรดาสื่อต่างประเทศเชื่อว่า Byton ที่มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองนานกิง ประเทศจีน จะเลือกเดินตามสูตรสำเร็จของ Tesla ในฐานะสตาร์ตอัพที่มีการนำเสนอแผนงานที่น่าเชื่อถือเพื่อระดมเงินจากนักลงทุน โดยตั้งสำนักงานการลงทุนที่ฮ่องกง, ศูนย์ออกแบบที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี และทีมงานพัฒนาซอฟต์แวร์รวมถึงระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ซิลิคอน วัลเล่ย์

รถยนต์ไฟฟ้าของ Byton ที่จะผลิตขายจริงมีให้เลือก 2 ระดับ แบ่งเป็นรุ่นแบตเตอรี่ขนาดความจุ 71 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่สามารถขับได้ 250 ไมล์ (ราว 402 กม.) ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง และรุ่นแบตเตอรี่แพ็กใหญ่ 95 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่จะวิ่งได้ไกลขึ้นเป็น 325 ไมล์ (ราว 523 กม.) ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง พร้อมพัฒนาระบบควิกชาร์จอัดไฟ 20 นาที ขับได้ 150 ไมล์ (ราว 241 กม.)

Facts

เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา BMW ประกาศจะนำระบบปฏิบัติการณ์ Amazon Alexa ติดตั้งใช้งานในรถยนต์ของพวกเขา และ Mini บางรุ่นที่จะออกขายในช่วงกลางปี 2018

ตามแผนการที่ผู้บริหาร Byton วางเอาไว้ พวกเขาจะเริ่มต้นส่งมอบรถยนต์คันแรกให้ลูกค้าในประเทศจีน ช่วงปลายปี 2019 ก่อนจะบุกตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ในปี 2020 ด้วยการตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 45,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.48 ล้านบาท โดยพวกเขายังมีแผนจะผลิตรถยนต์ซีดาน และรถยนต์อเนกประสงค์แบบ MPV อีกด้วย

 

 

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: byton.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

TagsBytonBYTONConceptWorldPremiereCES 2018concept carElectric VehicleEVStart UPTesla
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • เรเว่ สานต่อสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลัก BYD SEA V League 2025 ลีกตบลูกยางอาเซียน
  • Nissan Qashqai อัปเดตใช้ขุมพลัง e-Power เจเนเรชันที่สาม
  • Porsche ร่วมมือกับ Ferragamo ทำรถรุ่นพิเศษฉลอง 40 ปีในอิตาลี
  • BMW 540i xDrive Legacy Edition รุ่นเครื่องยนต์ 6 สูบไม่เสียบปลั๊กสำหรับแคนาดา
  • Toyota Land Cruiser Commercial เปลี่ยนจากรถเอสยูวีเป็นรถเพื่อการพาณิชย์

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram