Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
Tip&Technic
Home›Special Scoop›Tip&Technic›กระจกมองข้าง ปรับอย่างไรไม่ให้มีจุดบอด

กระจกมองข้าง ปรับอย่างไรไม่ให้มีจุดบอด

By นันทพงศ์ ภักดีบุตร
February 17, 2020
9299
0
Share:

แม้รถยนต์แทบทุกรุ่นในปัจจุบันจะมีการทำงานเตือนผู้ขับเมื่อมีรถเข้ามาในจุดบอด เพื่อช่วยให้ความปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีครบในทุกรุ่นย่อย เพราะมักเป็นการทำงานที่อยู่ในรุ่นย่อยสูงๆ เท่านั้น ทำให้ผู้ซื้อรถที่ไม่มีการทำงานนี้มาด้วย หรือผู้ที่ขับรถรุ่นเก่าที่ไม่ว่ารุ่นย่อยใดก็ไม่มีการทำงานเตือนเมื่อมีรถเข้ามาในจุดบอดต้องทำการปรับ กระจกมองข้าง ของรถด้วยตนเอง เพื่อให้มีจุดบอดน้อยที่สุดในขณะเดินทาง

อย่างไรก็ตามก่อนจะไปถึงขั้นตอนการปรับกระจกมองข้างเพื่อไม่ให้เกิดจุดบอดสิ่งแรกที่ควรรู้ก็คือความหมายของจุดบอดว่าจริงๆ แล้วคืออะไร จุดบอดหรือมุมอับสายตาคือพื้นที่ด้านข้างของรถที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในระยะการมองของผู้ขับรถหรือในกระจกมองข้างและกระจกมองหลัง

ปรับกระจกมองข้างเพื่อลดจุดบอด

สิ่งแรกที่ต้องปรับคือกระจกมองข้างฝั่งผู้ขับ โดยการปรับกระจกมองข้างให้ขนานกับพื้นและหันออกจนกระทั่งมองเห็นด้านข้างของรถน้อยที่สุด

ส่วนการปรับกระจกมองข้างฝั่งผู้โดยสารหรือฝั่งซ้าย ก็ไม่แตกต่างกับการปรับฝั่งผู้ขับที่ควรปรับกระจกมองข้างมองเห็นด้านข้างของรถน้อยที่สุด หรือเห็นด้านข้างของรถบางๆในกระจกมองข้าง

เมื่อปรับกระจกมองข้างอย่างถูกต้อง กระจกจะลดจุดบอดให้เหลือน้อยที่สุดจนวัตถุอย่างคนขี่จักรยานหรือคนเดินถนนไม่ถูกบังจนมองไม่เห็นอย่างสมบูรณ์ และมองเห็นได้เพียงพอจะว่าวัตถุนั้นอยู่ตำแหน่งใด

ปรับกระจกมองข้างตามคำแนะนำของ Society of Automotive Engineering

เมื่อปี 1995 ทาง Society of Automotive Engineering หรือ SAE ได้มีการเผยแพร่คำแนะนำในการปรับกระจกมองข้างเพื่อลดจุดบอดออกมา ซึ่งวิธีการอาจไม่คุ้นเคยสำหรับผู้ขับรถทั่วไปนัก แต่จะเป็นการเพิ่มมุมด้านหลังและด้านของรถให้กว้างขึ้น คือปรับให้กระจกมองข้างทั้ง 2 ฝั่งหันออกมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จนกระทั่งภาพที่ปรากฏในขอบด้านในของกระจกมองข้างฝั่งนั้นเหลื่อมกับภาพที่ขอบฝั่งเดียวกันของกระจกมองหลังเล็กน้อยหรือแสดงภาพต่อเนื่องกับกระจกมองหลัง ซึ่งเมื่อทำอย่างถูกต้องจะส่งผลให้ไม่มีจุดบอด เพราะเมื่อรถด้านหลังพ้นระยะของกระจกมองหลังก็จะปรากฏในกระจกมองข้าง

อย่างไรก็ตามการปรับกระจกมองข้างตามคำแนะนำของ SAE ทำให้ต้องมองกระจกมองหลังเพื่อดูว่ากำลังมีรถขับขึ้นมาจากด้านหลังหรือไม่อยู่เสมอ ในขณะที่กระจกมองข้างจะถูกใช้เมื่อรถที่กำลังผ่านเข้ามาพ้นระยะของกระจกมองหลังแล้ว รวมทั้งอาจทำให้ผู้ขับรถรู้สึกแปลกและไม่มั่นใจเพราะมองไม่เห็นด้านข้างของรถตัวเอง  การปรับกระจกตาม SAE จะช่วยให้ไม่ต้องหันมองข้ามไหล่ตัวเองเมื่อจะเปลี่ยนเลน

 

ปรับกระจกมองหลังร่วมด้วย

หนึ่งในวิธีช่วยลดจุดบอดที่สำคัญคือการใช้กระจกมองหลังร่วมกับกระจกมองข้าง ซึ่งหน้าที่ของกระจกมองหลังคือทำให้ผู้ขับสามารถมองเห็นทุกสิ่งด้านหลังรถได้ ดังนั้นวิธีปรับกระจกมองหลังที่ถูกต้องคือปรับเพื่อให้มองเห็นกระจกมองหลังทั้งหมดจากตำแหน่งของผู้ขับ รวมทั้งหากมีสิ่งใดที่จะบดบังการมองเห็นของกระจกมองหลังก็ควรนำออกไป นอกจากนี้สิ่งสำคัญในการใช้กระจกมองหลังคือผู้ขับรถจะต้องเพียงแค่ชำเลืองมองเท่านั้นไม่ใช่หันไปมอง

ตรวจสอบหลังการปรับกระจก

หลังการปรับกระจกมองข้างแล้วควรจะมีมุมมองที่กว้างเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้านหลังรถ โดยสามารถตรวจสอบได้ในขณะจอดรถขนานกับถนน แล้วดูรถที่เคลื่อนที่ผ่านกระจกเข้ามาในมุมมองของผู้ขับ เพื่อช่วยให้รู้ว่าจะต้องปรับกระจกมองข้างใหม่หรือไม่ก่อนนำรถออกไปขับ

อย่างไรก็ตามหลังการตรวจสอบการปรับกระจกมองข้างโดยจอดรถขนานกับถนนแล้ว เมื่อขับรถบนถนนก็ควรมีการตรวจสอบจุดบอดด้วย โดยเมื่อขับรถบนถนนที่มี 3 ช่องทางการจราจรโดยอยู่ในช่องจราจรกลาง ให้สังเกตรถที่อยู่ในช่องจราจรขวาที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามา โดยไม่ต้องขยับศรีษะแต่ใช้การชำเลืองดูกระจกหลัง แล้วมองตามขณะที่กำลังเข้ามาใกล้ และก่อนที่รถคันนั้นจะหายไปจากกระจกหลัง ด้วยการชำเลืองมองกระจกมองข้างฝั่งขวาก็จะสามารถมองเห็นรถคันนั้นได้และสามารถมองตามได้ขณะที่รถกำลังผ่านไป โดยก่อนที่จะไม่เห็นรถในกระจกมองข้างควรจะสังเกตเห็นรถคันนั้นได้ในมุมมองของตัวเอง

ส่วนการตรวจสอบกระจกมองข้างฝั่งซ้ายจะทำในลักษณะตรงกันข้ามกับฝั่งขวา โดยเริ่มจากการมองเห็นรถที่คุณกำลังผ่านในช่องจราจรซ้ายในระยะมุมมองของตนเอง ก่อนที่จะมองเห็นในกระจกมองข้างฝั่งซ้าย แล้วเห็นรถที่เพิ่งผ่านไปในกระจกมองหลัง

 

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

TagsDriving - Knowledgeกระจกมองข้างปรับกระจกมองข้าง
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • Porsche เผยโฉม Cayenne Electric สู่สาธารณชน-พรางตัวทดสอบสมรรถนะก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
  • สเปค และข้อมูลของ Ferrari Amalfi ซูเปอร์คาร์สไตล์ GT ขุมกำลัง V8 รุ่นล่าสุดจากมาราเนลโล่
  • Ferrari Amalfi ม้าลำพองตัวใหม่จากมาราเนลโล่-ยกระดับรถสปอร์ต GT ขุมกำลัง V8 630 แรงม้า
  • ‘เจม-นันทวุฒิ’ พลิกแซง 10 นาทีท้าย-คว้าแต้มศึกฟอร์มูล่า ยูโรเปี้ยน ที่ฮังการี
  • ‘เติ้น-ทัศนพล’ นักแข่งไทยคนแรกคว้าชัยชนะในศึกฟอร์มูล่า 3 รอบสปรินต์ เรซ ที่ซิลเวอร์สโตน

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram