• เอาละครับ หลังจากที่ EP1 อยู่ในฉาก “ประเมินสถานการณ์” ตอนนี้เรามาเปิดฉาก “เข้าพระเข้านาง” กันบ้าง หากเราประเมินแล้วว่า “ลุย !!!” แน่นอนแล้ว มันก็จะมีขั้นตอนการขับลุยน้ำท่วมอย่างไร ให้รอดปลอดภัย หรือ เกิดผลเสียกับความเสี่ยงน้อยสุด ไม่เถียงว่าจะรู้ไปทำไม ไอ้ขับลุยดุ่ยๆ ไปล่ะก็ได้ถ้าตราบใดที่รถไม่ดับ แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราลุยแบบ “มีชั้นเชิง” อย่างน้อยก็ดีกว่าไปแบบวัดดวงถูกไหม ???
  • หน้าฝนนี้ สิ่งที่เราจะได้เจออยู่บ่อยๆ นั่นก็คือ “แอ่งน้ำ” ที่ขังอยู่ตามริมทาง ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำกว่า พอฝนตกหนักๆ น้ำก็เลยไปขังกองตรงนั้นเป็นแอ่งขึ้นมา จะ “แมวนอน” หรือ “ควายนอน” ก็แล้วแต่ความลึก พอรถวิ่งผ่านมา ลงแอ่งทีก็ “น้ำกระจาย” ถ้าคนรุ่นใหญ่เขาก็ว่าเหมือนโดดลงอ่างรัชดา (ไปตีความหมายเอาเองเด้อ) แต่สิ่งที่ตามมา ก็คือ “รถมีอาการเสียหลัก” จากการ “เหิรน้ำ” หรือ Hydroplaning (ไฮโดรเพลนนิ่ง) ...
  • ต้องยอมรับว่าเมืองไทยเป็นเมืองที่เอาแน่เอานอนเรื่องฤดูกาลไม่ได้ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว (นิดนึง) เดี๋ยวฝน บางครั้งฝนที่เทลงมาทำให้เกิดน้ำท่วมขังรอการระบาย โดยเฉพาะน้ำท่วมสูง และพวกเรามักจะได้ยินข่าวร้ายอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำท่วมและเกิดอุบัติเหตุตามมา เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว แน่นอนว่ารถยนต์ของเรานั้นไม่สามารถลุยน้ำหรือดำน้ำได้ เหมือนกับรถหรูของเจมส์ บอนด์ 007 แต่อย่างใด ยิ่งเป็นแบบนี้เรายิ่งต้องเรียนรู้ให้มากว่าจะขับรถผ่านน้ำท่วมสูงรอระบายยังไงดีให้ปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของเรากับ 5 วิธีขับรถผ่านน้ำท่วมต้องทำไง ? มาอ่านกันเถอะ
  • ฝนตกกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์มากครับช่วงนี้ แถมถนนหลักหลายสายของเมืองไทย เวลาฝนตกลงมาหนักๆอย่างต่อเนื่องชอบมีน้ำท่วม เฮ้ย !! ไม่ใช่ซิน้ำรอการระบาย ฮาฮา