ซิติเซ็นฉลองครบรอบ 40 ปีของเทคโนโลยีพลังงานแสง Eco-Drive นวัตกรรมที่เป็นเอกสิทธิเฉพาะของซิติเซ็น โดยจัดแสดงนิทรรศการ “CITIZEN Eco-Drive Lounge” ในสนามบินนานาชาติ  9 แห่งทั่วโลกตลอดทั้งปีนี้

ล่าสุดได้จัดแสดง ณ สนามบินสุวรรณภูมิ  ณ บริเวณทางไป GATE A B C D (ลานจัดกิจกรรมที่4)  นอกจากนำเสนอข้อมูลเทคโนโลยี Eco-Drive เทคโนโลยีพลังงานแสง เอกสิทธิเฉพาะของซิติเซ็น ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่มีการเปิดตัวนาฬิกาอนาล็อกพลังงานแสงครั้งแรกของโลกในปี พ.ศ. 2519 (ค.ศ. 1976) แล้ว ยั งได้นำสุดยอดนาฬิกาซิติเซ็นรุ่นล่าสุดที่ยังไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยมาโชว์โฉม อาทิ “Eco-Drive One” นาฬิกาพลังงานแสงเรือนบางที่สุดในโลก  นาฬิการุ่น L AMBILUNA  สำหรับสุภาพสตรีที่มาพร้อมเสน่ห์ลึกลับจากดวงจันทร์  และกิจกรรมมากมาย  ตอกย้ำความเป็นผู้ผลิตนาฬิกาที่รักษ์สิ่งแวดล้อม  ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 พฤศจิกายนนี้

สนามบินสุวรรณภูมิของประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 สนามบินทั่วโลกที่มีการจัดแสดงนิทรรศการ “CITIZEN Eco-Drive Lounge”  เพื่อให้ชาวไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ได้มาเยือนประเทศไทยได้สัมผัสกับเทคโนโลยี Eco-Drive  ซึ่งจะแปลงพลังงานแสงจากธรรมชาติ และแสงเทียมให้เป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อให้นาฬิกาทำงานตลอดอายุการใช้งานโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ และเป็นผลิตภัณฑ์ Eco Mark ที่ได้รับการรับรองเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมนาฬิกา  พร้อมทั้งจัดแสดงนาฬิการุ่นล่าสุดที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยช่วงปีหน้า  ได้แก่ รุ่น “Eco-Drive One” สุดยอดนาฬิกาแห่งปี พ.ศ. 2559  นาฬิกาพลังงานแสงที่บางที่สุดในโลก มีความบางเพียง 1.00 มม. และเพิ่งเปิดตัวที่งานแสดงนวัตกรรมนาฬิการะดับโลกที่บาเซิล (Basel World) เมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากความพยายามคิดค้นและปรับปรุงเทคโนโลยี Eco-Drive และสร้างสรรค์นาฬิกา Eco-Drive ที่สวยงามกว่า บางกว่า ขนาดเล็กกว่า น้ำหนักเบากว่าและมีฟังก์ชั่นมากกว่า  รวมทั้งนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี รุ่น L AMBILUNA  และ L AMBILUNA URUSHI  ที่ซึ่งการออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากพลังแห่งแสงนวลที่ลึกลับของพระจันทร์  ดังนั้นด้วย 40 ปีของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี  Eco-Drive ที่ไม่หยุดนิ่ง ได้สะท้อนแนวคิด “BETTER STARTS NOW” หรือ “เริ่มต้นตอนนี้ดีกว่า” ของแบรนด์ซิติเซ็น  ด้วยความเชื่อที่ว่าคนเราทุกคนสามารถทำสิ่งที่ดีกว่าได้เสมอ และตอนนี้เป็นเวลาที่จะต้องเริ่มต้นลงมือทำ”

ทั้งนี้นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน – ตุลาคมที่ผ่านมา นิทรรศการ “CITIZEN Eco-Drive Lounge”  ได้จัดเวียนไปแล้ว 5 สนามบิน ได้แก่  สนามบินนานาชาติซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย  สนามบินนานาชาติหงเฉียวเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน  สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์  สนามบินนานาชาติดูไบ ประเทศดูไบ  และสนามบินนานาชาติกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน   สำหรับเดือนพฤศจิกายน นอกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยแล้ว ยังจัดที่สนามบินแอโรปอร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล เอด กัวรุลโฮส ประเทศบราซิล และสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี  ส่วนสนามบินสุดท้าย คือ สนามบินนานาชาติฮ่องกงในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้

เรื่อง: พุทธิ ผาสุข

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th