ไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้า แอร์รถยนต์ ต้องมาเสียในวันใช้งาน เพราะครั้นจะเปิดกระจกขับรถก็ทนร้อนไม่ไหว ฝุ่นมลพิษก็เยอะ ซึ่งถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เรามีวิธีแนะนำการตรวจเช็คแอร์รถยนต์เบื้องต้น พร้อมวิธีแก้ไขมาฝาก

-น้ำยาแอร์ขาด การใช้งานแอร์รถที่ยาวนาน จนลืมตรวจเช็คระดับน้ำยา อาจทำให้มีปริมาณน้ำยาแอร์ไม่เพียงพอในการเพิ่มแรงดันเข้าแผงคอยล์เย็น และไม่มีน้ำยาแอร์ไปดูดจับความร้อนภายในตัวรถ ทำให้แอร์รถไม่เย็นได้ ถ้าจะให้ดีควรหมั่นเติมน้ำยาและตรวจเช็คน้ำมันคอมเพรสเซอร์บ่อย ๆ นะ

-ตู้แอร์รั่ว สาเหตุนี้จะส่งผลถึงแรงดันน้ำยาแอร์ลดลง ดังนั้นควรตรวจเช็ครอยรั่วเมื่อรู้สึกว่าแอร์รถไม่เย็น โดยใช้น้ำสบู่ราดลงบนท่อ ถ้าฟองสบู่ขยายตัว แสดงว่ามีจุดรั่วแน่นอน ให้รีบหาวิธีแก้ไข

-ระบบแผงระบายความร้อนหรือพัดลมหน้าแผงคอยล์ไม่ทำงาน ระบบนี้ส่งผลให้น้ำยาแอร์ไม่ระบายความร้อนออกมา และน้ำยาแอร์ในแผงคอยล์มีอุณหภูมิสูง ทำให้ตอนจอดรถนิ่งๆ แอร์จะไม่เย็นหรือเย็นน้อยกว่าตอนที่รถเคลื่อนที่

-ใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภท การใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภททำให้ แอร์รถไม่เย็น ได้ และอาจเกิดผลเสียตามมา เพราะถ้าแรงดันของน้ำยาแอร์สูงขึ้นเป็นระยะเวลาติดต่อกันเป็นเวลานาน อุปกรณ์และตัวคอมเพรสเซอร์ในระบบจะเสียหาย

-สายพานคอมเพรสเซอร์หย่อน เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แอร์รถไม่เย็น สังเกตจากเสียงสายพานจะดังขึ้น ขณะที่คอมเพรสเซอร์เริ่มทำงาน ดังนั้นการที่เราปล่อยให้สายพานคอมเพรสเซอร์หย่อนจนเกินไปนั้นไม่ดีแน่ ควรปรับความตึงให้เหมาะสม และตรวจเช็ครอยร้าวของสายพานให้ดี หากมีรอย ให้รีบเปลี่ยนใหม่จะดีที่สุด

แนะนำว่าถ้ามีการนำรถเข้าศูนย์บริการ เราควรให้ช่างผู้ชำนาญการตรวจเช็คเพื่อความอุ่นใจ แต่ถ้าอยากตรวจเช็คเองก็ทำตามที่แนะนำข้างต้นได้เลย จะได้ไม่ต้องขับรถอาบเหงื่อต่างน้ำในบรรยากาศที่แสนอบอุ่นของเมืองไทย

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th