เจ้านกน้อยดูน่ารักน่าเอ็นดู มองดูแล้วสดชื่นหน้าหลงไหล แต่คนรักรถหลายท่านทราบกันเจ้านกเหล่านี้มีสิ่งหนึ่งเป็นอันตรายต่อรถยนต์ที่ท่านรัก นั้นก็คือขี้ของมันนั้นเอง

ขี้นกไม่ใช่รอยเปื้อนธรรมดาที่จะปล่อยทิ้งไว้นานจนแห้งติดรถได้เหมือนรอยเปื้อนจากสิ่งอื่นๆ ถ้าเห็นเจ้านกตัวร้ายขี้ลงบนรถยนต์ของท่านเมื่อไหร่ละก็ ผมแนะนำให้หานำล้างล้างออกทันทีที่ทำได้ เพราะเนื่องจากว่าในขี้นกนั้นมีสภาพความเป็นกรดเป็นด่าง ที่สามารถทำลายชั้นเคลือบ(แลคเกอร์)ที่ปกป้องสีรถ แถมยังสามารถทะลุทะลวงลงไปถึงชั้นสีแท้ของรถเราได้ หากว่าเราปล่อยขี้นกเอาไว้ให้มันแห้งกังติดรถโดยไม่ล้างออก

ถ้าทิ้งเอาไว้นานๆ ผลของมันก็คือ บริเวณที่เปื้อนจะกลายเป็นรอยด่างหม่นๆ สีรถจุดนั้นจะไม่สดใส เนื่องจากชั้นเคลือบและชั้นสีแท้ของรถถูกมันทำลายไปแล้ว จะล้างหรือขัดอย่างไรก็ยากที่จะทำให้กลับมามีสภาพสวยใสดังเดิม เสียเงินขัดสีแน่นอนครับ แถมไม่รู้ว่าจะหายหรือเปล่าด้วย

วิธีป้องกัน หากรถของเรามีรอยขี้นกหยดลงมาใส่ให้รีบหาทางทำความสะอาดให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ และวิธีป้องกันอีกวิธีก็คือ เวลาล้างรถให้เคลือบแว็กซ์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เป็นชั้นป้องกันสีแท้ของรถเอาไว้อีกสักหน่อยก็ยังดี หรือไม่ถ้ามีกำลังเงินเพียงพอก็ทำเคลือบแก้วสีรถไปเลย แพงหน่อยแต่ป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญเวลาจะจอดรถที่ไหนก็ดูให้ดีว่ามีโอกาสที่นกจะบินมาทิ้งระเบิดใส่หรือเปล่า หรือพยายามหลีกเลี่ยงให้ไกลจากใต้ต้นไม่ใหญ่ ใต้สายไฟ เป็นต้น จะได้ไม่ต้องปวดหัวกันนะครับ

เรื่องของสีตัวรถเอง ก็มีส่วนสำคัญ และจากการศึกษาวิจัยที่ทำการศึกษาโดย halfords บริษัททำความสะอาดยานยนต์ชั้นนำ ของประเทศอังกฤษพบว่า สีรถยนต์ที่นกชอบขี้ใส่มากที่สุด คือ สีแดงมากถึง 18 % สีน้ำเงิน 14% สีดำ  11 % สีขาว 7%  และ สีเทา 3 % ส่วนสีที่นกชอบขี้น้องที่สุดคือสีเขียวมีเพียง 1 % อันนี้เป็นความรู้เพิ่มเติมเลยนะครับเวลาจะออกรถใหม่ ดูเอาว่าสีไหนนกไม่ชอบจะได้ปลอดภัยจากขี้นกได้ในระดับหนึ่ง

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th